เล่าขาน....ตำนานไหว้พระจันทร์

เทศกาลไหว้พระจันทร์ มีเครื่องเซ่นไหว้เป็น “ขนมเปี๊ยะ” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นศิริมงคล ความปรารถนาดีต่อกัน และความสมัครสมานสามัคคี เพราะในเทศกาลนี้คนในครอบครัวจะมาอยู่พร้อมหน้ากัน กินขนมไปพลาง ชมพระจันทร์ไปพลาง

ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์กันแล้ว ที่ชาวจีนจะเฉลิมฉลองด้วยการไหว้ดวงจันทร์ในเวลากลางคืน ในบางประเทศ เช่น ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์ หรือเวียดนาม จะจัดเป็นประเพณีใหญ่ มีการเฉลิมฉลองด้วยโคมไฟสีแดง เป็นสีสันยามค่ำคืน หรือบางแห่งอาจมีการเชิดมังกร ทั้งนี้จะมีชื่อเรียกต่างกันออกไปตามแต่ท้องถิ่น ในวันนี้ละมุนจะมาเล่า ตำนานของขนมไหว้พระจันทร์ ให้เพื่อนๆฟังกัน ว่าเทศกาลนี้มีประวัติความเป็นมายังไง

ตำนานของขนมไหว้พระจันทร์ มีเรื่องเล่าที่เกี่ยวโยงกับพงศาวดารจีนอยู่ด้วย กล่าวคือ เมื่อ600ปีก่อน เล่ากันว่า... เกิดขึ้นเมื่อสมัยมองโกลเข้ามาปกครองแผ่นดินจีน ชาวมองโกลกดขี่ข่มเหงและทำร้ายชาวจีนอย่างโหดเหี้ยม และเพื่อควบคุมดูแลชาวจีนอย่างใกล้ชิด ชาวมองโกลจึงส่งทหารของตนไปประจำอยู่ในบ้านของชาวจีนครอบครัวละ 1 คน เป็นอันว่าชาวจีนทุกๆ ครัวเรือนต่างต้องเลี้ยงดูทหารมองโกล 1 คน ทหารมองโกลเหล่านี้ยังก่อกรรมทำชั่วไปหมดทำให้ชาวจีนขุ่นเคืองใจเป็นอย่างยิ่ง

ต่อมาท่านหลิวปั๋วเวิน คิดได้วิธีหนึ่ง คือ ให้นำกระดาษเขียนข้อความ แล้วสอดไส้ไว้ในขนม เรียกร้องให้ชาวจีนทุกคนลงมือสังหารทหารมองโกลที่ประจำอยู่ในบ้านของตน อย่างพร้อมเพรียงกันในวันเพ็ญเดือนแปด

ทั้งนี้เพื่อให้ชาวจีนที่ไปซื้อขนมมารับประทานกัน ต่างได้อ่านข้อความดังกล่าวและช่วยกันกระจายข่าวนี้ออกไป เพื่อก่อการปฏิวัติโดยพร้อมเพรียงกัน ณ วันเพ็ญเดือนแปด ทำให้สามารถโค่นล้มอำนาจการปกครองของมองโกลในที่สุด เมื่อถึงเวลาตีเกราะเคาะร้องบอกกันก็ลงมือสังหารพวกมองโกลทันที

ภายหลังเมื่อชาวจีนได้เอกราชคืน ได้ถือ วันเพ็ญเดือนแปด เป็นวันไหว้พระจันทร์เรื่อยมาและนำขนมเปี๊ยะนี้มาไหว้พระจันทร์อีกด้วย เพราะถือเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพและความสามัคคีร่วมกัน